คำกล่าวที่ว่า You are what you eat? หรือ คุณกินอะไร คุณก็ได้อย่างนั้น ไม่ใช่คำกล่าวที่เกินจริง
มนุษย์ดำรงชีวิตอยู่ได้ด้วยการกิน ไม่ว่าจะกินเพื่ออยู่ หรืออยู่เพื่อกิน การกินก็ยังเป็นสิ่งจำเป็น แต่การกินถ้าอยากจะให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนบางทีการ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ในแต่ละมื้ออาจเป็นเรื่องที่ยากเกินไป แต่ถ้าทำได้ผลตอบแทนที่ได้รับมาคือสุขภาพที่ดีวัยที่เหมาะกับการกิน อาหารให้ครบ 5 หมู่ ถ้าพูดกันตามจริงก็คือทุกวัย ตั้งแต่แรกเกิดจนถึงชราทุกคนควรจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน แม้วัยรุ่น หรือวัยทำงานซึ่งเป็นวัยที่อยู่ในช่วงสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ก็ยังต้องการ การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่เช่นกัน
อาหารแบบไหนเหมาะกับวัยอย่างเรา
วัยทำงาน เป็นวัยที่ใช้สมองเยอะมาก ฉะนั้นจึงควรกินอาหารประเภทที่บำรุงสมองและระบบประสาท อาหารเสริมที่สำคัญจึงควรเป็นกลูโคส ซึ่งหาได้จากอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและสารอาหารสำคัญที่ช่วยเปลี่ยนคาร์โบไฮเดรตให้เป็นกลูโคส ได้แก่ วิตามินบีต่างๆ รวมทั้งเสริมด้วยวิตามินบี 1 ที่พบมากในธัญพืชจำพวกข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ รำข้าว ถั่วต่างๆ งา ข้าวโพด ข้าวโอ๊ต กะหล่ำปลี แครอท ถั่วงอก คะน้า ผักกาดหอม มะเขือ มะเขือเทศ กระเจี๊ยบ ผัก และผลไม้ทุกชนิด
นอกจากนี้ยังควรเลือกกินปลาแทนเนื้อสัตว์ใหญ่ เพราะมีกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะน้ำมันปลา ซึ่งมีสารอาหารที่สำคัญช่วยบำรุงประสาทอย่าง OMEGA3 ช่วยให้ระบบการทำงานของสมองดีขึ้น ทั้งยังช่วยลดความเครียดและอารมณ์ซึมเศร้าได้ด้วย
เครียดทั้งทีกินอะไรดีวัยรุ่น
ถ้าเครียดมากๆ ในแต่ละวันเราควรกินอะไร ดื่มกาแฟ? หรือขนมขบเคี้ยว? ลืมไปได้เลยเพราะนอกจากจะไม่ช่วยอะไร (นอกจากช่วยให้อิ่ม) ยังเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ การจัดการความเครียดของคนวัยทำงานควรกินผลไม้สดระหว่างวัน เช่น ส้ม ฝรั่ง สับปะรด หรือจะคั้นทำเป็นเครื่องดื่มยามว่างแทนก็ได้ เพราะเอนไซม์จากน้ำผลไม้สดจะช่วยเรียกความสดชื่นกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย
นอนไม่หลับทำอย่างไร
ปัญหาการนอนไม่หลับใช้วิธีนับ Like ใน Facebook ก่อนนอนไม่น่าจะได้ผล แต่ถ้านอนไม่หลับจริงๆ แนะนำให้ทานกล้วย เพราะผลไม้ชนิดนี้อุดมไปด้วยแมกนีเซียมกับโปแตสเซียม (Potassium) ที่ไม่ใช่แค่ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ แต่ยังมีทริปโตเฟน (Tryptophan) หนึ่งใน 20 กรดอะมิโนจำเป็นสำหรับมนุษย์ ซึ่งเปลี่ยนเป็นเซโรโทนิน (Serotonin) หรือสารสื่อประสาท ที่ทำหน้าที่ การควบคุมความหิว อารมณ์ และความโกรธ และเมลาโทนิน ฮอร์โมนที่ช่วยให้สมองผ่อนคลายทำงานได้ดี แต่ทานเยอะไปก็อิ่มเกินอาจจุกและนอนลำบากนิดนึง
บ๊าย บาย แอลกอฮอล์
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ต่อร่างกาย คนวัยทำงานอยู่ในช่วงวัยที่รักการสังสรรค์ หากลด ละ เลิก แอลกอฮอล์ได้ชีวิตจะดีขึ้น เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ถ้าดื่มจนติดแล้วจะทำให้ร่างกายขาดวิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ รวมทั้งอาจจะเป็นโรคตับแข็งเป็นของแถม เลิกได้เลิกเถอะ
ถ้าอยากจะมีสุขภาพที่ดี กินอาหารครบ 5 หมู่ และอาหารที่ดีต่อสุขภาพอย่างเดียวคงไม่พอต้องออกกำลังกายควบคู่ไปด้วย นอกเหนือจากสุขภาพที่ดีแล้ว เรายังได้ร่างกายที่มีหุ่นเท่ๆ เชปเป๊ะๆ ไว้อวดเพศตรงข้ามด้วยนะ
Health Survey
1.หากวัยรุ่นชายอยากแก่ช้าควรได้รับแร่ธาตุสังกะสี วันละ 10-19 มิลลิกรัม เพราะมีส่วนช่วยให้ร่างกายเสริมสร้างฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ยังคงความหนุ่ม ไม่แก่ก่อนวัยอันควร
2.อาหารหลักที่วัยรุ่นควรกินคือ ข้าวสลับกับอาหารประเภทแป้งเป็นบางมื้อ หากเป็นไปได้ ควรกินข้าวกล้อง หรือข้าวซ้อมมือ ควบคู่ไปกับอาหารประเภทแป้ง และควรกินวันละ 8-12 ทัพพี
3.นมเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะสมกับทุกวัย และคนวัยทำงานควรดื่นนมในปริมาณ 1-2 แก้วต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี
4.ควรกินเนื้อปลา เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ และ ถั่วเมล็ดแห้งเป็นประจำ เพื่อได้รับสารอาหารที่เป็นโปรตีน จำนวนการกินต่อวันคือ 6-12 ช้อน-โต๊ะ ส่วนไข่ควรกินสัปดาห์ละ 2-3 ฟอง
5.ถึงจะยังไม่แก่ แต่วัยทำงานก็ควรกินอาหารบำรุงกระดูก โดยเน้นอาหารที่มีแคลเซียม เพราะเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อสุขภาพร่างกายและกระดูก หากร่างกายขาดแคลเซียมก็จะทำให้กระดูกเปราะเกิดโรคกระดูกพรุน เราสามารถเติมแคลเซียมให้กับกระดูก โดยหาได้จากอาหารที่ทำจากนมทุกชนิด และในปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งตัวก็มีแคลเซียมจากก้างปลา
6.ศัตรูของสาวๆ และหนุ่มๆ ที่รักผิวพรรณ ก็คือแสงแดด เพราะแสงแดดนอกจากทำอันตรายต่อผิวแล้วยังทำให้เกิดสิว ฝ้า และกระได้ ทำให้ผิวขาวใสดูหมองคล้ำ จึงควรกินอาหารที่ช่วยบำรุงผิว เช่น หัวผักกาด หัวหอม มะเขือเทศ ใบขึ้นฉ่าย กะหล่ำดอก สำหรับคนผิวมันควรงดอาหารจำพวกไขมัน และเน้นผักผลไม้แทน
DID YOU KNOW? คนวัยทำงานมีปัญหาสุขภาพอะไรบ้าง
- เหนื่อยง่าย หมดแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
- อ่อนเพลียง่าย พักผ่อนแล้วก็ไม่ดีขึ้น
- ซึมเศร้าเป็นครั้งคราว
- ปวดศีรษะเป็นครั้งคราว
- กินอาหารต่อวันไม่ครบ 5 หมู่
- ไม่มีเวลากินอาหารเช้า
- ไม่มีโอกาสกินผักหรือผลไม้เป็นประจำทุกวัน
- ต้องทำงานหนัก และนอนดึก
- ไม่มีเวลาออกกำลังกาย
- ไม่มีเวลาไปพบแพทย์ และไม่อยากไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ
ที่มา : www.sanook.com