รู้หรือไม่? การเดินชันบนลู่วิ่ง มีข้อดีมากมาย เช่นการช่วยลดไขมัน หรือ การสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ โดยที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ไม่ต้องเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บ และสามารถทำได้ในระยะยาวอีกด้วย
ในบทความนี้ thailandfitness จะเล่าให้ฟังถึง 5 ข้อดีของการออกกำลังกายด้วยการปรับความชันลู่วิ่งไฟฟ้า จะมีอะไรบ้าง ติดตามได้ในบทความนี้เลย
ข้อดีของการเดินชันบนลู่วิ่ง มีอะไรบ้าง
การเดินด้วยการปรับความชันลู่วิ่งไฟฟ้า ไม่ได้มีข้อดีเพียงแค่การช่วยลดไขมัน และเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ตามที่กล่าวไปในข้างต้นเท่านั้น แต่ยังมีข้อดีอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนี้
1.มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายสามารถทำได้
เนื่องจากการเดินชันบนลู่วิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นต่ำ ถึง ปานกลาง หากเทียบกับการออกกำลังกายรูปแบบอื่น ๆ เช่นการทำ Sprint Interval หรือ HIIT (High Intensity Interval Training) จึงทำให้การเดินบนลู่วิ่งแบบปรับความชันเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่มือใหม่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายสามารถทำได้
ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกายรูปแบบนี้ คือการค่อย ๆ ปรับระดับความเร็วในการเดิน และ ความชันเท่าที่ร่างกายสามารถปรับตัวได้ ตัวอย่างเช่น การ Cardio ด้วยการเดินชัน 1 ชม. ด้วยความเร็ว 6 กม. / ชม. และปรับความชันที่ระดับ 6 เป็นต้น
2.สามารถเผาผลาญไขมันได้ดีมากกว่าการเดินทั่วไป
ถ้าหากเปรียบเทียบการเดินชันบนลู่วิ่ง กับการเดินทั่วไปที่ไม่ได้ปรับความชัน โดยใช้ความเร็ว และระยะเวลาออกกำลังกายที่เท่ากัน การเดินชันบนลู่วิ่งสามารถลดไขมัน และ เผาผลาญแคลอรี่ได้มากกว่าอย่างเห็นได้ชัด
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบการเดิน 2 รูปแบบที่แตกต่างกัน ดังนี้
- การเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าที่ไม่ได้ปรับความชัน สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้ 180 กิโลแคลอรี่ในระยะเวลา 30 นาที
- การเดินบนลู่วิ่งที่ปรับความชัน สามารถเผาผลาญแคลอรี่ได้สูงถึง 225 กิโลแคลอรี่ ในระยะเวลาที่เท่ากัน
เพราะฉะนั้นถ้าหากใครที่ต้องการที่จะลดไขมัน และ เพิ่มอัตราการเผาผลาญแคลอรี่ให้กับร่างกายแต่ต้องการออกกำลังกายด้วยระยะเวลาเท่าเดิม การเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าแบบปรับความชันก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
3.สร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ
เพราะการเดินชันบนลู่วิ่ง นั้นไม่ต่างอะไรจากการเดินขึ้นภูเขาที่เป็นทางลาดชันขนาดย่อม ๆ ซึ่งสามารถช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ เช่น กล้ามเนื้อสะโพก กล้ามเนื้อต้นขา และกล้ามเนื้อแฮมสตริงได้เป็นอย่างดี
ผลประโยชน์ทางอ้อมของการที่กล้ามเนื้อพัฒนามากขึ้นคือการที่ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น ยิ่งร่างกายมีกล้ามเนื้อมากเท่าไหร่ การเผาผลาญไขมันก็จะดีขึ้นตามลำดับ หรือพูดอย่างเข้าใจง่ายก็คือ การเดินชันช่วยลดน้ำหนัก และ เพิ่มกล้ามเนื้อได้ในเวลาเดียวกันนั่นเอง
4.ไม่ทำให้เกิดการสูญเสียกล้ามเนื้อโดยไม่จำเป็น
จุดประสงค์หลักของการทำ Cardio คือการลดไขมันในร่างกาย แต่บางครั้งถ้าหากออกกำลังกายแบบ Cardio ด้วยความเข้มข้นที่มากเกินไป อาจจะทำให้ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อโดยไม่จำเป็น แถมร่างกายจะไม่นำไขมันในร่างกายไปใช้ แต่จะดึงเอาคาร์โบไฮเดรต และกล้ามเนื้อในร่างกายไปใช้แทน
ยกตัวอย่างเช่นการเดินชันบนลู่วิ่ง เป็นการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นระดับ Heart Rate Zone 2 ซึ่งทำให้ร่างกายดึงไขมันในร่างกายมาใช้โดยที่ไม่สูญเสียกล้ามเนื้อ ถึงแม้จะเดินชัน 1 ชม. แต่ถ้าหากออกกำลังกายด้วยความเข้มข้น ระดับ Heart Rate Zone 4 – 5 ขึ้นไปนั้น ถึงแม้จะได้ประโยชน์ด้านความแข็งแรง และการเพิ่มสมรรถนะทางร่างกาย แต่มีผลข้างเคียงคือการสูญเสียกล้ามเนื้อโดยไม่จำเป็น อีกทั้งร่างกายยังดึงไขมันไปใช้น้อยกว่าการออกกำลังกายแบบ Heart Rate Zone 2 อีกด้วย
เพราะฉะนั้น เราควรที่จะออกกำลังกายด้วยการเดินชัน กับ วิ่ง ไปควบคู่กัน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วยการเดินชัน และ เพิ่มสมรรถภาพโดยรวมให้กับร่างกายด้วยการวิ่งนั่นเอง แต่การวิ่งนั้นก็ไม่ควรวิ่งด้วยสปีดที่เร็วมากเกินไป ถึงระดับ Heart Rate Zone 4 – 5 เพราะจะทำให้ร่างกายสูญเสียกล้ามเนื้อโดยไม่จำเป็น และอาจจะเกิดอาการบาดเจ็บได้
5.สุขภาพดีขึ้น กระตุ้นการเต้นของหัวใจ
อย่างที่ทราบกันว่าการออกกำลังกายแบบ Cardio ทุกรูปแบบนั้นมีประโยชน์กับหัวใจ และ การไหลเวียนของเลือด เช่นเดียวกับการเดินบนลู่วิ่งแบบปรับความชัน ที่ช่วยทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นถึงประมาณ Heart Rate Zone 2 ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ สามารถทำได้ทุกวันในระยะยาว
นอกจากนั้นการเดินบนลู่วิ่งไฟฟ้าแบบปรับความชันอย่างเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจ ยังมีผลดีต่อสุขภาพอีกหลาย ๆ ด้านเช่นการลดความเครียดจากการทำงาน ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของปอด และยังช่วยป้องกันการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดได้อีกด้วย
สรุปทั้งหมด
ถึงแม้การเดินชันบนลู่วิ่ง เป็นการ Cardio ที่มีความเข้มข้นต่ำ แต่การเดินชันสามารถลดไขมันและ เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกายได้ดีกว่าการเดินแบบปกติ เมื่อเปรียบเทียบด้วยระยะเวลาการออกกำลังกายที่เท่ากัน อีกทั้งยังสามารถทำได้ทุกที่ เพียงแค่มีลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถปรับระดับความชันได้
แต่การที่จะออกกำลังรูปแบบนี้ให้มีประสิทธิภาพที่สุด ควรจะใช้ลู่วิ่งไฟฟ้าที่มีฟังก์ชันการปรับความชัน และ ความเร็วที่หลากหลาย เพื่อการปรับเปลี่ยนความเข้มข้นของการออกกำลังกายได้ตามที่เราต้องการ
ที่มา : nbasport.co.th
