5 ประโยชน์ดี ๆ ที่ได้ง่าย ๆ แค่ทานอาหารเย็นให้เร็วขึ้น

การกินอาหารเย็นให้เร็วขึ้น นอกจากจะช่วยลดความอ้วนได้แล้ว เรายังจะได้ประโยชน์สุขภาพที่ดี๊ดีอีกหลายข้อ

การลดน้ำหนักเพื่อให้ได้ผลดีไม่ควรใช้วิธีอดอาหารไม่ว่าจะมื้อไหน ๆ โดยเฉพาะใครที่ลดความอ้วนด้วยการอดมื้อเย็นต้องบอกว่าคุณพลาดมาก ๆ เพราะนอกจากจะเป็นการฝึกให้ระบบเผาผลาญรวนเรแล้ว ระดับน้ำตาลในเลือดที่ตกเพราะอดอาหารอาจผลักดันให้คุณอยากกินขนมและของหวานพาอ้วนมากขึ้นกว่าเดิมอีก ดังนั้นอยากมีหุ่นดี ๆ พร้อมด้วยสุขภาพที่ดีด้วย ก็ต้องรับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อนะคะ และจะยิ่งดีมากขึ้นไปอีกหากคุณเลือกรับประทานอาหารเย็นเร็วกว่าปกติสักนิดหน่อย เพราะแค่กินอาหารเย็นให้เร็วขึ้นกว่าเดิม สิ่งที่คุณจะได้เพิ่มเติมก็คือประโยชน์ 5 ข้อนี้แหละ

1.ช่วยลดน้ำหนักได้ดีขึ้น เอวบางลง

การกินอาหารเย็นเร็วขึ้นจะทำให้ร่างกายมีเวลาเบิร์นแคลอรีออกไปได้หมด หรืออย่างน้อยก็ได้เบิร์นอาหารที่กินเข้าไปได้มากเท่าที่ระบบเผาผลาญจะทำได้ไหว ซึ่งก็จะช่วยให้ไม่เกิดไขมันสะสมในร่างกาย อันเป็นที่มาของความอ้วนท้วนได้

นอกจากนี้ผลการวิจัยในชั้นเซลล์ระบบเผาผลาญ (Cell Metabolism) ยังพบว่า หนูที่กินอาหารเย็นเร็วขึ้น โดยทิ้งห่างจากมื้อเช้าของวันถัดไปราว 16 ชั่วโมง จะมีรอบเอวที่เล็กและบางกว่าหนูที่กินอาหารเย็นตามปกติ ทั้งที่ก็กินอาหารในปริมาณเท่า ๆ กัน ซึ่งนักวิจัยก็ได้อธิบายไว้ว่า การทิ้งช่วงอาหารเย็นให้ยาว ๆ ก่อนที่ร่างกายจะได้รับมื้อเช้าในวันรุ่งขึ้น เป็นการปล่อยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายมีไขมันสะสมจากอาหารที่เบิร์นไม่หมดน้อยกว่าเดิมนั่นเอง

2.แก้นอนไม่หลับได้

สำหรับคนที่ชอบรับประทานอาหารเย็นช่วงหัวค่ำ หรืออาจเลื่อนไปเป็นมื้อดึกแทน ขอเดาเลยว่าคุณน่าจะเจอปัญหานอนไม่หลับอยู่บ่อย ๆ เพราะเมื่อเรารับประทานอาหารเย็นในเวลาที่ใกล้เข้านอน อาหารที่กินเข้าไปอาจยังย่อยไม่หมด และระบบเผาผลาญก็ต้องทำโอทีเพื่อที่จะเบิร์นอาหารเย็นเหล่านี้จนจบสิ้นกระบวนการ แล้วอย่างนี้เราจะนอนหลับสบายได้ยังไง

อีกทั้งผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารทางการแพทย์ The Mind and Body ยังเตือนมาด้วยว่า หากเข้านอนในขณะที่อิ่มจัดก็อาจกระตุ้นให้คลื่นสมองทำงานและก่อฝันร้ายได้เช่นกัน ดังนั้นการเลื่อนเวลารับประทานอาหารเย็นให้เร็วขึ้นกว่าเดิม ก็จะช่วยแก้ปัญหานอนไม่หลับและฝันร้ายได้ เนื่องจากร่างกายจะมีเวลาเผาผลาญอาหารเย็นได้มากขึ้นยังไงล่ะคะ

3.ลดความเสี่ยงโรคกรดไหลย้อน

เราน่าจะพอรู้ ๆ กันมาอยู่บ้างว่าพฤติกรรมกินแล้วนอนทันทีจะเสี่ยงต่อโรคกรดไหลย้อนให้ต้องทรมาน เพราะหากเรานอนทั้ง ๆ ที่กระเพาะอาหารยังย่อยอาหารไม่หมด กรดในกระเพาะอาหารอาจจะไหลย้อนมาที่หลอดอาหาร ทำให้เกิดอันตรายต่อหลอดอาหารและเยื่อบุในหลอดอาหารที่มีความบอบบาง กระทั่งก่อให้เกิดอาการอักเสบตามมาได้ ดังนั้นทางที่ดีเราจึงควรกินอาหารเย็นก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง หรือไม่ก็ลองเลื่อนเวลารับประทานอาหารเย็นให้เร็วขึ้นจากเดิมสักหนึ่งชั่วโมงก็ได้ค่ะ

4.เพิ่มความกระฉับกระเฉงให้ร่างกาย

อาหารที่เรารับประทานเข้าไปในแต่ละมื้อจะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานเพื่อให้ร่างกายทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากเราสามารถกินอาหารเย็นในช่วงเวลาที่ห่างจากมื้อกลางวันไม่มากเกินไป (ห่างจากมื้อกลางวันไม่เกิน 4 ชั่วโมง) ระบบต่าง ๆ ก็จะทำงานกันได้อย่างเต็มที่ ทว่าหากกินมื้อเย็นเลทมากจนเกือบจะเป็นมื้อดึก ร่างกายอาจเข้าสู่โหมดระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ เหนื่อย อ่อนล้า และอาจจะทำให้รู้สึกหิวหนักมาก ลงท้ายด้วยการกินแบบไม่บันยะบันยัง เป็นการสะสมไขมันในร่างกายจนทำให้อ้วนและเสี่ยงต่อโรคได้

5.ปลอดภัยจากความเสี่ยงโรคเรื้อรัง

การมีไขมันสะสมอยู่ในร่างกายมาก ๆ ย่อมไม่ดีต่อสุขภาพแน่ ๆ โดยเฉพาะคนที่กินมื้อเย็นแบบจัดหนักมาโดยตลอด แถมยังกินมื้อเย็นค่อนข้างจะดึกด้วย แคลอรีจากอาหารที่ร่างกายเผาผลาญไม่หมดอาจเปลี่ยนเป็นไตรกลีเซอร์ไรด์ และเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันได้ในที่สุด

หากเป็นไปได้ก็อยากให้ปรับช่วงเวลากินอาหารเย็นให้เร็วขึ้นกว่าเดิมสัก 1-2 ชั่วโมงก็ยังดีนะคะ และหากอยากได้สุขภาพดีเพิ่มขึ้นไปอีก ก็อย่าลืมออกกำลังกายกันเป็นประจำด้วยล่ะ

ที่มา : kapook.com

ติดตามเรา

spot_img

Related Articles

PHP Code Snippets Powered By : XYZScripts.com