เด็ก ๆ กับการวิ่งเล่นออกกำลังกายนั้นเป็นของคู่กันมาแต่ไหนแต่ไร แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปทำให้เด็ก ๆ ได้ออกไปวิ่งเล่นน้อยลง เด็กบางคนต้องเรียนเยอะจนไม่มีเวลาว่าง บางคนเสียเวลาไปกับการเดินทางเพราะรถติดหนัก หรือบางคนก็ไม่สนใจการออกไปวิ่งเล่นเพราะสนุกกับโทรศัพท์มือถือมากกว่า โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 ที่ทำให้ต้องเว้นระยะห่าง งดกิจกรรมนอกบ้าน และสวมใส่หน้ากากอนามัย ยิ่งทำให้เด็ก ๆ ได้วิ่งเล่นออกกำลังกายลดลง ในขณะที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มสูงขึ้น
ด้วยเหตุนี้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พร้อมด้วยภาคีเครือข่าย จึงสานพลังร่วมกันผ่านแคมเปญรณรงค์ “สามเหลี่ยมสมดุล” เพื่อส่งต่อความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างแรงกระตุ้นให้พ่อแม่ผู้ปกครองเห็นความสำคัญของการดูแลลูกหลานให้เจริญเติบโตสมวัย มีสุขภาพดีแข็งแรง ด้วยการปรับ 3 พฤติกรรมหลักที่ต้องทำร่วมกันอย่างสมดุล นั่นคือ การออกกำลังกาย การกินอาหาร และการนอนหลับพักผ่อน
งานวิจัยหลายชิ้นยืนยันว่าการออกกำลังกายช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนบางชนิดที่ช่วยส่งเสริมอารมณ์และความรู้สึกเชิงบวกได้ ไม่ว่าจะเป็น โดปามีน เซโรโทนิน และเอ็นดอร์ฟิน ตัวอย่างเช่น จากงานวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร International Journal of Environmental Research and Public Health พบว่า การออกกำลังกายนั้นส่งผลต่ออารมณ์เชิงบวกในเด็กและวัยรุ่น โดยพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่เข้าร่วมกิจกรรมทางกายนั้นมีอารมณ์เชิงบวกมากกว่ากลุ่มควบคุมที่ไม่มีกิจกรรมทางกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นเวลา 30-60 นาที ในวัยรุ่นอายุน้อยกว่า 12 ปี ช่วยเพิ่มอารมณ์เชิงบวกมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ทำความรู้จักฮอร์โมนอารมณ์ดีที่ได้จากการออกกำลังกาย
- โดปามีน (Dopamine) เป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้สมองส่งสัญญาณไปยังเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้เซลล์ต่าง ๆ สื่อสารระหว่างกันได้ โดปามีนเป็นส่วนสำคัญของระบบการให้รางวัลของสมอง เกี่ยวข้องกับระบบประสาทหลาย ๆ ส่วน เช่น การเคลื่อนไหว และความรู้สึกพึงพอใจ เวลาที่ออกกำลังกาย สมองจะถูกกระตุ้นให้สร้างโดปามีน ทำให้เรารู้สึกดี มีความสุข และถ้าออกกำลังกายเป็นประจำก็ยิ่งกระตุ้นให้โดปามีนเพิ่มขึ้น ในการวิจัยทดลองแบบสุ่ม ในกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ใหญ่ที่รักษาอาการใช้สารเสพติด โดยให้ทำกิจกรรมออกกำลังกาย เดิน และวิ่งจ๊อกกิ้ง เป็นเวลา 1 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 3 ครั้ง หลังจาก 8 สัปดาห์ผ่านไป ตรวจพบสารโดปามีนในสมองเพิ่มขึ้น และทำให้รู้สึกดีมีความสุขได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสารเสพติด
- เซโรโทนิน (Serotonin) ฮอร์โมนและสารสื่อประสาทนี้ช่วยควบคุมอารมณ์ให้เป็นปกติ ช่วยในการนอนหลับ เพิ่มความอยากอาหาร และการย่อยอาหาร ช่วยในการเรียนรู้และความจำ มีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Medical Hypotheses พบว่า การออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านเพื่อให้ร่างกายได้รับแสงแดด ช่วยกระตุ้นการผลิตสารเซโรโทนินในร่างกาย โดยผู้ที่มีเซโรโทนินต่ำมีแนวโน้มที่จะมีภาวะซึมเศร้า
- เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ฮอร์โมนนี้ถือเป็นยาแก้ปวดตามธรรมชาติของร่างกายเลยก็ว่าได้ โดยร่างกายผลิตขึ้นจากต่อมใต้สมองและต่อมไฮโปทาลามัส เพื่อตอบสนองต่อความเครียดหรือความรู้สึกไม่สบาย ช่วยกระตุ้นความรู้สึกเชิงบวกในร่างกาย ช่วยให้เกิดความรู้สึกดี มีความสุข ทำให้อารมณ์ดีขึ้น ลดอาการซึมเศร้าและวิตกกังวลได้ ซึ่งการออกกำลังกายถือเป็นกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินได้ดี
- ออกซิโตซิน (Oxytocin) เป็นอีกหนึ่งฮอร์โมนที่ส่งผลเชิงบวกต่อร่างกาย ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย เป็นที่รู้จักในชื่อของฮอร์โมนแห่งสายสัมพันธ์ เพราะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกไว้ใจ เชื่อใจ ผูกพัน และเอาใจใส่กันและกัน เช่น สายสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว หรือแม่ที่เพิ่งคลอดบุตรและให้นมบุตร ฮอร์โมนออกซิโตซินนอกจากจะถูกกระตุ้นผ่านการกอดและสัมผัสที่อบอุ่นแล้ว ยังพบว่าสามารถเพิ่มได้ผ่านการออกกำลังกาย ตัวอย่างงานวิจัยจากวารสาร Nature ในปี 2018 พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เล่นกีฬาศิลปะการต่อสู้ที่ต้องมีการเคลื่อนไหวร่างกายไปพร้อมกับมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นนั้นมีระดับฮอร์โมนออกซิโตซินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ มีความสุขได้ผ่านฮอร์โมนสำคัญในร่างกาย พ่อแม่ควรสนับสนุนและสร้างสภาพแวดล้อมให้ลูกได้วิ่งเล่นเป็นประจำสม่ำเสมอ รวมถึงการกินดีและนอนพอ ที่ต้องทำร่วมกันอย่างสมดุล เพียงพอ และเหมาะสม จะช่วยให้เด็ก ๆ มีร่างกายแข็งแรง เติบโตสมวัย สุขภาพจิตดี เป็นพื้นฐานสำคัญทั้งในวันนี้และต่อไปในอนาคต
ที่มา : kapook.com