อาหารเป็นสิ่งสำคัญสำหรับร่างกาย ซึ่งให้ทั้งพลังงานและสารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและดูแลร่างกาย แล้วเราจะใช้อาหารเป็นยารักษาโรคได้อย่างไร
อาหารเป็นยา ลึกซึ้งมาก แต่วันนี้หนึ่งในที่กระแสโลกกำลังนิยมคือเรื่องกระแสสุขภาพ คือการทานอาหารคลีน เพราะฉะนั้นคำว่าอาหาร Functional Food หรืออาหารฟังก์ชัน เราได้ยินกันมากขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า มันคืออะไร
Functional Food คืออะไร?
สารอาหารหลักมีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ ส่วน Function Food หรืออาหารฟังก์ชั่น คืออาหารที่มีศักยภาพในเชิงบวกต่อสุขภาพนอกเหนือไปจากสารอาหารหลัก ซึ่งความคาดหวังของ Functional Food หรืออาหาร Function คือการส่งเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น และการป้องกันโรคบางอย่าง
Functional Food หาได้จากที่ไหนบ้าง?
ตัวอย่างง่ายๆ โอ๊ตมีล คือ ข้าวโอ๊ตเอามาทานด้วยการใส่นม ต้มแล้วใส่น้ำตาลนิดหน่อยบ้าง โอ๊ตมีล คือโปรตีนกับคาร์โบไฮเดรต แต่ในแง่ของ Functional Food โอ๊ตมีลมีไฟเบอร์ซึ่งช่วยดักจับคอเรสเตอรอลทำให้คอเรสเตอรอลลดลงได้ เป็นต้น นั่นคือ Functional Food ตามธรรมชาติ และFunctional Food ที่มีการผลิตขึ้นมาเพื่อให้อาหารมีหน้าที่ ซึ่งปกติอาหารก็มีคุณค่าอยู่แล้วแต่เติมสิ่งที่จำเป็นเพิ่มขึ้น เช่น เกลือเสริมไอโอดีน คือเป็นเกลือที่สามารถป้องกันโรคคอพอกได้ เป็น Functional Food ชนิดหนึ่ง ซึ่งใช้กันมาตั้งแต่เด็กโดยไม่รู้ตัว
อาหาร Functional ที่มีตามธรรมชาติ
1.งา เป็นแหล่งของแคลเซียมชั้นดี และงายังมีกรดไขมันโอเมก้า ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ถ้าเป็นงาขี้ม่อนมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งลดการอักเสบได้ด้วย และงายังมีสารเซซามิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูนอิสระ ช่วยป้องกันมะเร็งอีกด้วย
2.พรุน มีกรดนิโอลโรเจ็นนิคเอสิค กับโคลเจ็นนิค ซึ่งทั้งสองอย่างป้องกันอนุมูนอิสระ ป้องกันโรคหัวใจหลอดเลือด และมีผลในการช่วยเรื่องกระดูกพรุน เป็นต้น
3.ผลไม้ในตระกูลเบอร์รี่มีสาร แอนโธไซยานิน โดยเฉพาะผลไม้เบอร์รี่ที่สีออกม่วง เช่น บลูเบอร์รี่ ข้าวหอมนิล ซึ่งแอนโธไซยานินเป็นสารที่ต้านอนุมูนอิสระอย่างดี ช่วยป้องกันหัวใจหลอดเลือดได้ ป้องกันมะเร็งได้ นอกจากนั้นยังช่วยป้องกันความเสื่อมของจอตา กระจกตา บำรุงสายตาอีกด้วย
ชาอู่หลง มี Polyphenols พิเศษเรียกว่า Oolong Tea Polymerized Polyphenols OTPP มีลักษณะพิเศษคือมันช่วยขับไขมันออกจากตัว ลดคอเลสเตอรอล และช่วยเพิ่มการเผาผลาญในร่างกายได้ 10% หากใครอยากผอมอาจต้องใช้อู่หลงช่วย เป็นต้น ชาสดๆเรียกว่าชาเขียว ถ้าเอาชามาหมัก หรือมาบ่มบางอย่าง ใส่วัสดุการบ่มบางอย่างกลายเป็นอู่หลงแต่ถ้าบ่มต่อไปอีกกลายเป็นชาดำ เป็น Back Tea เป็นวิธีการทำ อู่หลงจะมี Polymerized Polyphenols ของเขาเอง เพราะฉะนั้นผลิตต่างกัน กลายเป็นฤทธิ์แตกต่างกันได้
อาหารบำรุงของคนจีน เช่น เห็ด ไม่ว่าจะเป็น ชิตาเกะ ไมตาเกะ มาบูชิตาเกะ ฮิเมะ มาสึทาเกะ ถั่งเฉ่า หลินจือ ในทางการแพทย์มีฤทธิ์ทางยาหมดเลย ถือเป็น Functional Food ส่วนใหญ่จะเสริมสร้างภูมิต้านทาน ลดการอักเสบในร่างกาย แต่ละตัวจะมีสารแตกต่างกัน เช่น กระดุมบราซิล มีสารที่ต้านมะเร็ง สามารถเอามาใช้เสริมการรักษามะเร็งได้ ส่วนเห็ดของไทยยังไม่มีการวิจัย
อาหารเมื่อเอามาปรุงต่างกันให้คุณค่าต่างกันหรือไม่?
อาหารเป็นยา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิธีปรุง การปรุงโดยใช้ความร้อนจะไปทำลายคุณค่าทางอาหาร ทานสดจะดีที่สุด เช่น พวกผักผลไม้ หรือใช้ความร้อนน้อยๆ ต้ม ตุ๋น ผัดใช้ความร้อนต่ำ แต่บางอย่างต้องใช้ความร้อนถึงจะได้ผล เช่น บล็อคเคอรี่ ต้องใช้ความร้อนถึงจะลดสารไม่ดีออก ไม่เช่นนั้นจะเป็นไทรอยด์คอพอกได้ ไก่ก็ต้องตุ๋นถึงจะได้สารออกมา เพราะฉะนั้นหลีกเลี่ยงของทอด ปิ้ง ย่าง เลือกนึ่งต้มตุ๋นผัด พยายามทานพวกนี้ให้มากขึ้น
ที่มา : dmc.tv