สำหรับคนที่ชอบออกกำลังกายจะรู้ดีว่าเราควรออกกำลังกายทั้งแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง แต่สำหรับมือใหม่อาจจะยังไม่รู้ว่าแล้วทั้งสองอย่างนี้มีความแตกต่างกันยังไง ออกกำลังกายแบบไหนที่ใช้เป็นท่าออกกําลังกายลดพุงได้ และจำเป็นไหมที่ต้องทำทั้งสองอย่างควบคู่กัน ? ไม่ว่าจะออกกำลังกายแบบไหน ทุกระบบการออกกำลังกายหากใช้อย่างถูกต้องก็สามารถเผาผลาญแคลอรี่ทั้งหมดที่คุณกินเข้าไปได้ และแม้ว่าทั้งสองแบบจะเป็นประโยชน์ต่อร่างกายและช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ แต่ความแตกต่างระหว่างคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งก็มีความสำคัญ ส่วนจะแตกต่างกันอย่างไรนั้นมาดูกันเลย
คาร์ดิโอกับเวทเทรนนิ่ง ต่างกันอย่างไร ออกกำลังกายแบบไหนดีกว่ากัน
คาร์ดิโอ คือ การออกกำลังกายแบบใช้ความอดทนที่ช่วยเสริมระบบไหลเวียนโลหิตของร่างกาย ทั้งหัวใจและหลอดเลือด ได้แก่ การวิ่ง ปั่นจักรยาน เต้นแอโรบิค
ในขณะที่เวทเทรนนิ่ง คือ การออกกำลังกายที่ใช้การต้านทานต่อกล้ามเนื้อหดตัวเพื่อเพิ่มความแข็งแรง เพิ่มความทนทาน และสร้างกล้ามเนื้อโครงร่าง ได้แก่ พิลาทิส โยคะ และบอดี้เวท เช่น วิดพื้น และซิทอัพ ที่เป็นท่าออกกําลังกายลดพุง
คาร์ดิโอจะช่วยลดสัญญาณการอักเสบในเนื้อเยื่อไขมัน ในขณะเดียวกันก็ป้องกันร่างกายของคุณไม่ให้สะสมไขมันมากเกินไป นอกจากนี้ยังเป็นความเข้าใจผิดทั่วไปที่ว่าคาร์ดิโอเผาผลาญไขมันเพียงอย่างเดียว และเวทเทรนนิ่งจะสร้างกล้ามเนื้อ แต่ในความเป็นจริง การออกกำลังกายทั้งสองรูปแบบมีประโยชน์อย่างมาก และควรทำทั้งสองอย่างเป็นประจำและควบคู่กัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอจะต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงบนลู่วิ่งหรือปั่นจักรยานจนหนักหน่วง เพราะแค่เพียงออกกำลังกายจนถึงจุดที่หัวใจและอัตราการเผาผลาญของคุณเพิ่มขึ้นก็เพียงพอ รวมถึงการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่งยังมีท่าออกกําลังกายลดพุงที่ดีและได้ผลอีกด้วย
ดังนั้น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งจึงไปด้วยกันได้ เพราะเป็นการผสมผสานที่คลาสสิกสำหรับการสร้าง รูปร่างเพรียวกระชับและท่าออกกําลังกายลดพุง นอกจากนี้หากเปรียบเทียบคาร์ดิโอกับเวทเทรนนิ่งในแง่ของการลดน้ำหนัก คาร์ดิโอมีข้อได้เปรียบในการเผาผลาญไขมันและรักษาน้ำหนักให้แข็งแรง ส่วนเวทเทรนนิ่งหลังการฝึกความแข็งแรง กล้ามเนื้อของคุณจะต้องพักฟื้นทำให้เกิดเมตาบอลิซึม หลังจากออกกำลังกายเสร็จคุณจะเผาผลาญแคลอรี่เพิ่มอีก 25% นอกจากนี้ ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากเท่าไร แคลอรี่ที่เผาผลาญในแต่ละวันก็จะยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เพราะการคงกล้ามเนื้อไว้นั้นต้องการพลังงานมากกว่าการเก็บไขมันนั่นเอง
และถ้าหากอยากฝึกความแข็งแกร่งไปพร้อม ๆ กับลดน้ำหนัก แนะนำให้คุณออกกำลังกายทั้งสองแบบควบคู่ แต่ถ้าต้องการลดไขมันโดยเฉพาะ การใช้ท่าออกกําลังกายลดพุงจะช่วยให้ไขมันรอบเอวและหน้าท้องหายไปและกลายเป็นกล้ามเนื้อแทน เพราะฉะนั้น เพื่อสุขภาพที่ดีมาออกกำลังกายทั้งสองแบบกัน
ที่มา : www.prachachat.net